ธนาคารกรุงเทพ
วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556
มอบสินไหม
นายพิบูล พุฒิพันธ์พงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการสาขาภูเก็ต บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนบริษัท พร้อมด้วยนางอรวรรณ ปาจรียพันธ์ ผู้จัดการสาขาจังซีลอน ธนาคารกรุงเทพ
มอบสินไหมทดแทนประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) จำนวน 740,000 บาท
ให้แก่ น.ส.นกน้อย รวงเงิน ภรรยาผู้เอาประกันภัย
ซึ่งเป็นผู้รับผลประโยชน์จากกรณีที่ Mr. Nicolas Javier Solis
ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุการขับขี่รถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุก
วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ธนาคารกรุงเทพ มอบไอแพดมินิ ให้กับลูกค้าแคมเปญ ‘คุ้ม 2 ต่อ’ สะสมยอดโอนเงินผ่านธนาคารกรุงเทพเข้าบัญชีธนาคารในออสเตรเลีย
นางพรนิจ ตุลย์วัฒนจิต ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (ที่ 3 จากขวา) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) มอบรางวัลไอแพดมินิ ให้กับ นางสาวศิวพร ศรีสวัสดิ์ (ที่ 3 จากซ้าย) นักศึกษาไทยในประเทศออสเตรเลีย ลูกค้าผู้โชคดีที่มียอดการโอนเงินสูงสุดเข้าบัญชีผ่านธนาคารกรุงเทพ จากแคมเปญ ‘คุ้ม 2 ต่อ’ ครั้งที่ 1 เพียงโอนเงินผ่านธนาคารกรุงเทพไป ยังบัญชีธนาคารในประเทศออสเตรเลีย ต่อที่ 1 ฟรีค่าธรรมเนียมการโอนเงินในครั้งที่ 2 จำนวน 950 บาท และต่อที่ 2 สะสมยอดเงินโอนสูงสุดในช่วง 3 เดือน สามารถรับไอแพดมินิ 1 เครื่อง ทั้งนี้ผู้ปกครอง นักเรียน นักศึกษา ที่กำลังศึกษาหรือวางแผนเดินทางไปศึกษาต่อยังประเทศออสเตรเลีย สามารถร่วมแคมเปญ ‘คุ้ม 2 ต่อ’ ได้จนถึงวันที่ 30 ธันวาคมนี้
ธนาคารกรุงเทพพร้อมอำนวยความสะดวกลูกค้า ใช้บริการฝาก-ถอน โอนเงิน โดยไม่ต้อง
ธนาคารกรุงเทพ
เพิ่มบริการฝาก-ถอนบัญชีเงินฝาก
หรือโอนเงินโดยไม่ต้องเขียนสลิปชุดฝากเงินสด เงินโอน และใบถอนเงิน
เพื่อเป็นทางเลือกในการใช้บริการ
โดยพร้อมให้ลูกค้าสามารถสัมผัสประสบการณ์ใหม่ได้ที่สาขาของธนาคารทั่วประเทศ
ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้เพิ่มบริการฝาก-ถอน และโอนเงิน โดยลูกค้าไม่ต้องเขียนสลิปชุดฝากเงินสด เงินโอน และใบถอนเงิน (No Slip) เพื่อเป็นทางเลือกในการใช้บริการและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าของธนาคาร เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยธนาคารพร้อมให้บริการดังกล่าวแก่ลูกค้าทุกสาขาทั่วประเทศ
บริการฝาก-ถอน โอนเงิน โดยไม่ต้องเขียนสลิป ในส่วนของลูกค้าฝากเงินหรือโอนเงิน สามารถนำสมุดคู่ฝากหรือมีเพียงชื่อบัญชีและเลขที่บัญชีก็สามารถมาทำรายการ ได้ที่เคาน์เตอร์ ส่วนที่ประสงค์ถอนเงินเพียงลูกค้าเจ้าของบัญชีนำสมุดคู่ฝากมาทำรายการด้วยตน เองที่เคาน์เตอร์ โดยลูกค้าแจ้งจำนวนยอดเงินที่ต้องการทำรายการ พร้อมส่งมอบเอกสารแสดงตนกรณีทำรายการต่างสาขา เจ้าหน้าที่ธนาคารจะดำเนินการบันทึกรายการและจัดพิมพ์สลิปให้ลูกค้าลงนาม โดยที่ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาในการกรอกข้อมูลลงบนสลิปด้วยตนเองเช่นที่ผ่านมา
ดร.ทวีลาภ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยระบบเทคโนโยลีที่ทันสมัย ธนาคารได้มีการสร้างสรรค์ พัฒนาและปรับปรุงช่องทางการให้บริการในรูปแบบต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ นอกเหนือจากการให้บริการผ่านเคาน์เตอร์สาขา เพื่ออำนวยความสะดวกและความคล่องตัวให้กับลูกค้าของธนาคาร อาทิ บริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ต หรือบัวหลวงไอแบงก์กิ้ง ที่ลูกค้าสามารถจัดการเรื่องการเงินได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว ทุกที่ ทุกเวลา ทั้งทางคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทโฟน บริการธนาคารทางโทรศัพท์ หรือบัวหลวงโฟน ที่ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมการเงินผ่านโทรศัพท์หมายเลข 1333 เพื่อติดต่อกับเจ้าหน้าที่ที่พร้อมให้บริการทั้งกลางวันและกลางคืนด้วย บริการมาตรฐานสากล รวมถึงบริการธนาคารอัตโนมัติ หรือบัวหลวงเอ็กซ์เพรส ที่พร้อมให้บริการทุกวันทุกเวลา ตลอด 7 วัน ไม่มีวันหยุด ทางเครื่องบัวหลวงเอทีเอ็ม (ATM) จำนวนกว่า 8,000 ตู้ทั่วประเทศ เครื่องบัวหลวงเงินฝากฉับไว (Cash Deposit Machine - CDM) เครื่องรับฝากและชำระเงินด่วน (Express Drop Box - EDB) เครื่องบันทึกรายการสมุดคู่ฝากอัตโนมัติ ครบวงจรของการให้บริการธุรกรรมทางการเงินทุกรูปแบบ
ธนาคารยังคงมุ่งพัฒนารูปแบบและช่องทางการให้บริการที่สะดวกสบาย สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า รวมทั้งสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมทาง การเงินได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบายในทุกสถานที่ เวลา และรูปแบบที่ลูกค้าต้องการ สำหรับลูกค้าที่สนใจในบริการและช่องทางต่างๆ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริการบัวหลวงโฟน โทร.1333 และที่เว็บไซต์ www.bangkokbank.com
ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้เพิ่มบริการฝาก-ถอน และโอนเงิน โดยลูกค้าไม่ต้องเขียนสลิปชุดฝากเงินสด เงินโอน และใบถอนเงิน (No Slip) เพื่อเป็นทางเลือกในการใช้บริการและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าของธนาคาร เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยธนาคารพร้อมให้บริการดังกล่าวแก่ลูกค้าทุกสาขาทั่วประเทศ
บริการฝาก-ถอน โอนเงิน โดยไม่ต้องเขียนสลิป ในส่วนของลูกค้าฝากเงินหรือโอนเงิน สามารถนำสมุดคู่ฝากหรือมีเพียงชื่อบัญชีและเลขที่บัญชีก็สามารถมาทำรายการ ได้ที่เคาน์เตอร์ ส่วนที่ประสงค์ถอนเงินเพียงลูกค้าเจ้าของบัญชีนำสมุดคู่ฝากมาทำรายการด้วยตน เองที่เคาน์เตอร์ โดยลูกค้าแจ้งจำนวนยอดเงินที่ต้องการทำรายการ พร้อมส่งมอบเอกสารแสดงตนกรณีทำรายการต่างสาขา เจ้าหน้าที่ธนาคารจะดำเนินการบันทึกรายการและจัดพิมพ์สลิปให้ลูกค้าลงนาม โดยที่ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาในการกรอกข้อมูลลงบนสลิปด้วยตนเองเช่นที่ผ่านมา
ดร.ทวีลาภ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยระบบเทคโนโยลีที่ทันสมัย ธนาคารได้มีการสร้างสรรค์ พัฒนาและปรับปรุงช่องทางการให้บริการในรูปแบบต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ นอกเหนือจากการให้บริการผ่านเคาน์เตอร์สาขา เพื่ออำนวยความสะดวกและความคล่องตัวให้กับลูกค้าของธนาคาร อาทิ บริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ต หรือบัวหลวงไอแบงก์กิ้ง ที่ลูกค้าสามารถจัดการเรื่องการเงินได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว ทุกที่ ทุกเวลา ทั้งทางคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทโฟน บริการธนาคารทางโทรศัพท์ หรือบัวหลวงโฟน ที่ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมการเงินผ่านโทรศัพท์หมายเลข 1333 เพื่อติดต่อกับเจ้าหน้าที่ที่พร้อมให้บริการทั้งกลางวันและกลางคืนด้วย บริการมาตรฐานสากล รวมถึงบริการธนาคารอัตโนมัติ หรือบัวหลวงเอ็กซ์เพรส ที่พร้อมให้บริการทุกวันทุกเวลา ตลอด 7 วัน ไม่มีวันหยุด ทางเครื่องบัวหลวงเอทีเอ็ม (ATM) จำนวนกว่า 8,000 ตู้ทั่วประเทศ เครื่องบัวหลวงเงินฝากฉับไว (Cash Deposit Machine - CDM) เครื่องรับฝากและชำระเงินด่วน (Express Drop Box - EDB) เครื่องบันทึกรายการสมุดคู่ฝากอัตโนมัติ ครบวงจรของการให้บริการธุรกรรมทางการเงินทุกรูปแบบ
ธนาคารยังคงมุ่งพัฒนารูปแบบและช่องทางการให้บริการที่สะดวกสบาย สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า รวมทั้งสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมทาง การเงินได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบายในทุกสถานที่ เวลา และรูปแบบที่ลูกค้าต้องการ สำหรับลูกค้าที่สนใจในบริการและช่องทางต่างๆ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริการบัวหลวงโฟน โทร.1333 และที่เว็บไซต์ www.bangkokbank.com
วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556
จับประเด็น: BBL ปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 2 บาท
ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการธนาคาร ครั้งที่ 8/2556 เมื่อวันที่ 22
ส.ค.2556 ได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลหุ้นสามัญระหว่างกาล
จากเงินกำไรของผลประกอบการงวด 6 เดือนแรก ปี 2556 อัตราหุ้นละ 2.00 บาท
ในวันที่ 20 ก.ย.2556 โดยเป็นเงินปันผลที่จ่ายจากกำไรสะสม
ซึ่งได้เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตรา 30% ทั้งนี้
กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์รับเงินปันผลในวันที่ 5 ก.ย.2556
และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225
ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535
และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยวิธีการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 6
ก.ย.2556
วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2556
คอลัมน์: ลด แลก แจก แถม: SUPERZERO
อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จัดโปรโมชั่น "INDEX SUPER ZERO"
สนุกช็อปเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน ด้วยข้อเสนอสุดเอ็กซ์คลูชีพ
กับสิทธิ์แบ่งจ่าย 0% นานสูงสุด 10 เดือน และยังมีเครดิตเงินคืน
เมื่อช็อปผ่านบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทยและธนาคารกรุงเทพ เริ่มแล้วตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค. - 19 ก.ย. ศกนี้ ที่อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์
วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ธนาคารกรุงเทพ ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 2 บาท
ธนาคารกรุงเทพ ประกาศจ่ายเงินปันผลหุ้นสามัญระหว่างกาล
จากเงินกำไรของผลประกอบการงวด 6 เดือนแรก ปี 2556 ในอัตราหุ้นละ 2.00 บาท
โดยกำหนดการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 กันยายน 2556
รายงานข่าวจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการธนาคาร ครั้งที่ 8/2556 เมื่อ
วัน ที่ 22 สิงหาคม 2556 ได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลหุ้นสามัญระหว่างกาล จากเงินกำไรของผลประกอบการงวด 6 เดือนแรก ปี 2556 อัตราหุ้นละ 2.00 บาท ในวันที่ 20 กันยายน 2556 โดยเป็นเงินปันผลที่จ่ายจากกำไรสะสมซึ่งได้เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตรา ร้อยละ 30 ทั้งนี้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่
5 กันยายน 2556 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยวิธีการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 6 กันยายน 2556
รายงานข่าวจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการธนาคาร ครั้งที่ 8/2556 เมื่อ
วัน ที่ 22 สิงหาคม 2556 ได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลหุ้นสามัญระหว่างกาล จากเงินกำไรของผลประกอบการงวด 6 เดือนแรก ปี 2556 อัตราหุ้นละ 2.00 บาท ในวันที่ 20 กันยายน 2556 โดยเป็นเงินปันผลที่จ่ายจากกำไรสะสมซึ่งได้เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตรา ร้อยละ 30 ทั้งนี้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่
5 กันยายน 2556 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยวิธีการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 6 กันยายน 2556
วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ธนาคารกรุงเทพ สาขาอินโดนีเซีย ได้รับการยกย่องจากสื่อ เป็น 1 ใน 3 ธนาคารต่างชาติที่ดีที่สุดในประเทศอินโดนีเซีย
ธนาคารกรุงเทพ สาขาประเทศอินโดนีเซีย
ภาคภูมิใจที่ได้รับการยกย่องจากนิตยสาร InfoBank
สื่อชั้นนำของประเทศอินโดนีเซีย ให้เป็น 1 ใน 3
ธนาคารต่างชาติที่ดีที่สุดในประเทศอินโดนีเซีย ด้วยคะแนน "ดีมาก" อันดับ 3
ท่ามกลางกลุ่มธนาคารต่างชาติซึ่งล้วนเป็นธนาคารที่มีชื่อเสียงระดับโลก
นาย ไชยฤทธิ์ อนุชิตวรวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาประเทศอินโดนีเซีย ได้รับการยกย่องจากนิตยสาร InfoBank ซึ่งเป็นนิตยสารชั้นนำที่มียอดพิมพ์มากที่สุดในประเทศอินโดนีเซียให้เป็น 1 ใน 3 ธนาคารต่างชาติที่ดีที่สุดในประเทศอินโดนีเซีย ด้วยคะแนน "ดีมาก" โดยอันดับ 1 ธนาคารเอชเอสบีซี อันดับ 2 ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด อันดับ 3 ธนาคารกรุงเทพ อันดับ 4 ซิตี้แบงก์ อันดับ 5 ธนาคารโตเกียว-มิตซูบิชิ อันดับ 6 แบงก์ออฟไชน่า อันดับ 7 เจพี
มอร์แกน เชสแบงก์ อันดับ 8 ดอยช์แบงก์ อันดับ 9 เดอะรอยัลแบงก์ออกสก๊อตแลนด์ และอันดับ 10 แบงก์
ออฟอเมริกา
นิตยสาร InfoBank ฉบับเดือนมิถุนายน 2556 รายงานว่า สำหรับกลุ่มธนาคารต่างชาติในประเทศอินโดนีเซียแม้ชื่อของธนาคารกรุงเทพอาจ ยังไม่เป็นที่รับรู้ในสาธารณะมากเท่าไรนักเมื่อเทียบกับธนาคารต่างชาติแห่ง อื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่เป็นธนาคารระดับโลก แต่ด้วยผลการดำเนินงานอันโดดเด่น โดยปี 2555 ธนาคารกรุงเทพ สาขาประเทศอินโดนีเซียมีเงินให้สินเชื่อเพิ่มขึ้น 63.17% เงินฝากรวมเพิ่มขึ้น 88.42% เงินกองทุนเพิ่มขึ้น 104.61% และสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 59.92% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ธนาคารกรุงเทพได้รับอันดับสำคัญในครั้งนี้
นายไชยฤทธิ์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ธนาคารกรุงเทพได้เปิดให้บริการในประเทศอินโดนีเซียเมื่อปีพ.ศ. 2511 ที่
จาร์กาต้าเป็นสาขาแห่งแรก พร้อมเปิดสาขาย่อยสุราบายาเป็นแห่งที่ 2 ในปีพ.ศ.2555 ปัจจุบันมีนายชลิต
เตชัสอนันต์ ผู้จัดการทั่วไป สาขาประเทศอินโดนีเซีย รับผิดชอบคอยดูแลและให้บริการ ด้วยความมั่นคง
แข็ง แกร่ง ความรู้ความเข้าใจ เครือข่ายความสัมพันธ์ทั้งกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ ทำให้ธนาคารสามารถตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างครบวงจร ครอบคลุมทั้งลูกค้าชาวไทยที่อาศัยอยู่ในอินโดนีเซีย ลูกค้าชาวอินโดนีเซีย และนักลงทุนต่างประเทศที่ต้องการใช้โอกาสการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ขยายกิจการสู่อินโดนีเซีย ซึ่งธนาคารมีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยสนับสนุนให้การดำเนินธุรกิจของ ลูกค้าในอินโดนีเซียเป็นไปอย่างราบรื่น และเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจที่ลูกค้าได้ขยายการลงทุนไปยังประเทศต่างๆ ให้เป็นหนึ่งเดียว
"การขยายเครือข่ายสาขาในต่างประเทศ นับเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของธนาคาร ที่มุ่งมั่นตอบสนองความ
ต้อง การให้กับลูกค้าที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค ปัจจุบันธนาคารมีเครือข่ายสาขาในประเทศต่างๆ ถึง 25 แห่ง และสำนักงานตัวแทนอีก 1 แห่ง ใน 13 เขตเศรษฐกิจสำคัญทั่วโลก ทั้งในรูปแบบที่เป็นสาขาของธนาคาร หรือธนาคารท้องถิ่นในประเทศ รวมไปถึงสำนักงานผู้แทน ด้วยเครือข่ายสาขาที่กว้างขวางและมั่นคงนี้ทำให้ธนาคารกรุงเทพ เป็นหนึ่งในธนาคารชั้นนำของภูมิภาคที่มีความพร้อมสูงสุด สำหรับรองรับการหลอมรวมกันทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียนในอนาคต"
นาย ไชยฤทธิ์ อนุชิตวรวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาประเทศอินโดนีเซีย ได้รับการยกย่องจากนิตยสาร InfoBank ซึ่งเป็นนิตยสารชั้นนำที่มียอดพิมพ์มากที่สุดในประเทศอินโดนีเซียให้เป็น 1 ใน 3 ธนาคารต่างชาติที่ดีที่สุดในประเทศอินโดนีเซีย ด้วยคะแนน "ดีมาก" โดยอันดับ 1 ธนาคารเอชเอสบีซี อันดับ 2 ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด อันดับ 3 ธนาคารกรุงเทพ อันดับ 4 ซิตี้แบงก์ อันดับ 5 ธนาคารโตเกียว-มิตซูบิชิ อันดับ 6 แบงก์ออฟไชน่า อันดับ 7 เจพี
มอร์แกน เชสแบงก์ อันดับ 8 ดอยช์แบงก์ อันดับ 9 เดอะรอยัลแบงก์ออกสก๊อตแลนด์ และอันดับ 10 แบงก์
ออฟอเมริกา
นิตยสาร InfoBank ฉบับเดือนมิถุนายน 2556 รายงานว่า สำหรับกลุ่มธนาคารต่างชาติในประเทศอินโดนีเซียแม้ชื่อของธนาคารกรุงเทพอาจ ยังไม่เป็นที่รับรู้ในสาธารณะมากเท่าไรนักเมื่อเทียบกับธนาคารต่างชาติแห่ง อื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่เป็นธนาคารระดับโลก แต่ด้วยผลการดำเนินงานอันโดดเด่น โดยปี 2555 ธนาคารกรุงเทพ สาขาประเทศอินโดนีเซียมีเงินให้สินเชื่อเพิ่มขึ้น 63.17% เงินฝากรวมเพิ่มขึ้น 88.42% เงินกองทุนเพิ่มขึ้น 104.61% และสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 59.92% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ธนาคารกรุงเทพได้รับอันดับสำคัญในครั้งนี้
นายไชยฤทธิ์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ธนาคารกรุงเทพได้เปิดให้บริการในประเทศอินโดนีเซียเมื่อปีพ.ศ. 2511 ที่
จาร์กาต้าเป็นสาขาแห่งแรก พร้อมเปิดสาขาย่อยสุราบายาเป็นแห่งที่ 2 ในปีพ.ศ.2555 ปัจจุบันมีนายชลิต
เตชัสอนันต์ ผู้จัดการทั่วไป สาขาประเทศอินโดนีเซีย รับผิดชอบคอยดูแลและให้บริการ ด้วยความมั่นคง
แข็ง แกร่ง ความรู้ความเข้าใจ เครือข่ายความสัมพันธ์ทั้งกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ ทำให้ธนาคารสามารถตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างครบวงจร ครอบคลุมทั้งลูกค้าชาวไทยที่อาศัยอยู่ในอินโดนีเซีย ลูกค้าชาวอินโดนีเซีย และนักลงทุนต่างประเทศที่ต้องการใช้โอกาสการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ขยายกิจการสู่อินโดนีเซีย ซึ่งธนาคารมีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยสนับสนุนให้การดำเนินธุรกิจของ ลูกค้าในอินโดนีเซียเป็นไปอย่างราบรื่น และเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจที่ลูกค้าได้ขยายการลงทุนไปยังประเทศต่างๆ ให้เป็นหนึ่งเดียว
"การขยายเครือข่ายสาขาในต่างประเทศ นับเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของธนาคาร ที่มุ่งมั่นตอบสนองความ
ต้อง การให้กับลูกค้าที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค ปัจจุบันธนาคารมีเครือข่ายสาขาในประเทศต่างๆ ถึง 25 แห่ง และสำนักงานตัวแทนอีก 1 แห่ง ใน 13 เขตเศรษฐกิจสำคัญทั่วโลก ทั้งในรูปแบบที่เป็นสาขาของธนาคาร หรือธนาคารท้องถิ่นในประเทศ รวมไปถึงสำนักงานผู้แทน ด้วยเครือข่ายสาขาที่กว้างขวางและมั่นคงนี้ทำให้ธนาคารกรุงเทพ เป็นหนึ่งในธนาคารชั้นนำของภูมิภาคที่มีความพร้อมสูงสุด สำหรับรองรับการหลอมรวมกันทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียนในอนาคต"
วันอังคารที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ภาระกิจต่อสังคม
ธนาคารกรุงเทพมุ่งมั่นสร้างสรรค์สังคมด้วยเจตนารมณ์ของ “เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน” ตลอดมา นอกจากการให้บริการทางการเงินครบวงจรเพื่อสนับสนุนลูกค้าทั้งในชีวิตประจำวัน และการดำเนินธุรกิจแล้ว ธนาคารยังมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่สังคมและประเทศชาติผ่านกิจกรรมหลากหลาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ ด้านการศึกษา ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม และด้านการดูแลพนักงาน
กิจกรรมเพื่อสังคมที่ธนาคารกรุงเทพดำเนินการและสนับสนุน ล้วนมีเป้าประสงค์ที่มุ่งสร้างประโยชน์โดยตรงและยั่งยืนให้แก่ประชาชนในวงกว้าง เพื่อสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนของสังคม ไม่เพียงยืนหยัดได้อย่างมั่นคง หากยังสามารถหยิบยื่นความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลไปให้ผู้ที่กำลังต้องการความช่วยเหลือได้ ซึ่งจะส่งผลให้สังคมและประเทศชาติมีความแข็งแรงและมั่นคงอย่างยั่งยืนในที่สุด
กิจกรรมเพื่อสังคมที่ธนาคารกรุงเทพดำเนินการและสนับสนุน ล้วนมีเป้าประสงค์ที่มุ่งสร้างประโยชน์โดยตรงและยั่งยืนให้แก่ประชาชนในวงกว้าง เพื่อสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนของสังคม ไม่เพียงยืนหยัดได้อย่างมั่นคง หากยังสามารถหยิบยื่นความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลไปให้ผู้ที่กำลังต้องการความช่วยเหลือได้ ซึ่งจะส่งผลให้สังคมและประเทศชาติมีความแข็งแรงและมั่นคงอย่างยั่งยืนในที่สุด
- ด้านเศรษฐกิจและภาคธุรกิจ การพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนเปรียบเสมือนการสร้างเครื่องมือที่จำเป็นในการดำรงชีพให้แก่ประชาชนในสังคม ในขณะเดียวกันก็ช่วยเสริมสร้างสังคมให้มีความเข้มแข็งด้วย ธนาคารกรุงเทพมุ่งมั่นส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างสมดุล โดยจัดการอบรม ส่งเสริมการศึกษา และถ่ายทอดความรู้แก่ผู้ที่สนใจ
- ด้านการศึกษา เพราะเชื่อว่าการส่งเสริมคนรุ่นใหม่ที่ทั้ง “เก่ง” และมี “จริยธรรม” คือการลงทุนเพื่ออนาคตที่ดีที่สุด ธนาคารกรุงเทพจึงให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาตลอดมา อาทิ โครงการสร้างอาคารเรียนธนาคารกรุงเทพทั่วประเทศ
- ด้านศิลปะและวัฒนธรรม ศิลปะและวัฒนธรรมไทยคือองค์ประกอบสำคัญในการเผยแพร่และรักษา
อัตลักษณ์ของประเทศ ธนาคารกรุงเทพจึงมุ่งมั่นส่งเสริมและอนุรักษ์ไว้ซึ่งศิลปะและวัฒนธรรมไทยอย่างต่อเนื่องมาตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ไม่ว่าจะเป็น การจัดประกวดและนิทรรศการภาพเขียนจิตรกรรม
บัวหลวง และกิจกรรมของศูนย์สังคีตศิลป์ อีกทั้งยังให้การสนับสนุนศิลปะและวัฒนธรรมรูปแบบอื่นๆ ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก อาทิ การเป็นผู้สนับสนุนหลักการประกวด “วรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน” หรือ “รางวัลซีไรต์” และมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ ตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบัน - เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ธนาคารกรุงเทพซาบซึ้งและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ที่ทรงมีต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างที่หาที่สุดมิได้ ธนาคารได้ร่วมในกิจกรรมเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เสมอ ตลอดจน สนับสนุนโครงการตามแนวทางพระราชดำริต่างๆ อันอำนวยประโยชน์ต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง
- ทำนุบำรุงศาสนา ด้วยตระหนักดีว่าสังคมไทยมีศาสนาเป็นศูนย์รวมและที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ธนาคารกรุงเทพจึงให้ความสำคัญแก่การส่งเสริมและทำนุบำรุงพุทธศาสนา ตลอดจนสนับสนุนทุกศาสนาหลักในประเทศไทย เพื่อเสริมสร้างรากฐานทางสังคมที่แข็งแกร่งและเปี่ยมไปด้วยคุณธรรม
- ด้านสาธารณกุศลและการบรรเทาสาธารณภัย ด้วยตระหนักดีถึงลักษณะของสังคมที่มีความหลากหลาย ธนาคารกรุงเทพมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนต่างๆ อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะโดยให้การสนับสนุนแก่องค์กรสาธารณกุศลต่างๆ และสนับสนุนดำเนินการเพื่อบรรเทาสาธารณภัย และแบ่งปันน้ำใจแก่ผู้ประสบภัยทั้งในประเทศและทั่วโลก
- ด้านสิ่งแวดล้อม ธนาคารกรุงเทพส่งเสริมให้ภาคธุรกิจดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยให้การ สนับสนุนหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อพิเศษ หรือการส่งเสริมการฟื้นฟูและปกป้องสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการต่างๆ อาทิ โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ และปฏิบัติตามมาตรการลดปริมาณการใช้พลังงานในการปฏิบัติงานประจำวัน
- ด้านพนักงาน ด้วยเป้าหมายสำคัญในการสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่พนักงาน พร้อมทั้งส่งเสริม
แนวทางการดำเนินชีวิตอย่างเหมาะสมและมีความพึงพอใจต่อการทำงาน ธนาคารกรุงเทพจึงยึดถือปฏิบัติตามหลักจรรยาบรรณในการดูแลพนักงานอย่างเคร่งครัด ในขณะเดียวกัน ธนาคารได้ส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ ด้วย
“โฮมโปร” ฉลองครบรอบ 17 ปี คืนกำไรให้ลูกค้า ได้ช็อปคุ้ม แบบจัดเต็ม!! ทั้งลด ทั้งแถม คาดโกยยอดขายกว่า3,000 ล้าน
โฮมโปร “ฉลองครบรอบ 17 ปี” ช็อปคุ้มกว่าที่เคย ลดสนั่นทุกแผนก
ด้วยสินค้าราคาพิเศษสุดๆ เริ่มที่ 170 บาท เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้า 1
ปี มีครั้งเดียว และสินค้าราคาพิเศษลดสูงสุด 70%
รับเพิ่มจากโฮมโปร-บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ
สูงสุดเป็นประวัติการณ์รวม 96,550 บาท รับฟรี iPhone 5
ช้อปครบรับสิทธิ์แลกซื้อ LED TV 50 นิ้ว ราคา 29,999 บาท
และรับคะแนนโฮมการ์ดสูงสุด 17 เท่า
เตรียมช้อปได้แล้วตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม — 25 กันยายน 2556
หวังกวาดยอดขายกว่า 3,000 ล้านบาท
นายณัฏฐ์ จริตชนะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” ผู้นำธุรกิจศูนย์รวมวัสดุ และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านครบวงจร เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 17 ปีของโฮมโปร บริษัทฯ ได้จัดแคมเปญเพื่อเป็นการคืนกำไรแก่ลูกค้า ภายใต้แคมเปญ “โฮมโปรฉลองครบรอบ 17 ปี” ตั้งแต่ 29 สิงหาคม — 25 กันยายน 2556 พร้อมการผนึกพันธมิตร ผู้ร่วมค้า และสถาบันการเงินต่าง ๆ มอบโปรโมชั่นพิเศษแบบสุดคุ้มมากมาย
ทั้งนี้ตามแคมเปญที่จัดขึ้น นอกจากจะมีการลดราคาสินค้าแล้ว สมาชิกโฮมการ์ดรับสิทธิ์ช้อปครบ... รับฟรี IPhone 5 , ทองคำหรือบัตรของขวัญโฮมโปร เมื่อช้อปครบ 40,000 บาท รับฟรี บัตรของขวัญโฮมโปร มูลค่า 700 บาท , ช้อปครบ 70,000 บาท รับฟรี บัตรของขวัญโฮมโปร มูลค่า 2,000 บาท , ช้อปครบ 120,000 บาท รับฟรี สร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง มูลค่า 5,337 บาท , ช้อปครบ 300,000 บาท รับฟรี โฮมโปร Gift Card มูลค่า 15,000 บาท และช้อปครบ 450,000 บาท รับฟรี I Phone 5 16 GB มูลค่า 24,550 บาท พร้อมรับสิทธิ์แลกซื้อ สินค้าราคาสุดคุ้ม เพิ่ม ช้อปครบ 5,000 บาท รับสิทธิ์แลกซื้อ หมอน Mickey mouse ราคาเพียง 490 บาท จากปกติ 650 บาท , กระเป๋าเดินทาง 16 นิ้ว ราคาเพียง 990 บาท จากปกติ 2,590 บาท , Power bank แบตตารี่สำรองสำหรับ Smart Phone ราคาเพียง 1,700 บาท จากปกติ 2,690 บาท , ช้อปครบ 20,000 บาท รับสิทธิ์แลกซื้อ ไมโครเวฟ LG 28 ลิตร 3 ระบบ ราคาเพียง 3,990 บาท จากปกติ 7,990 บาท และช้อปครบ 60,000 บาท รับสิทธิ์แลกซื้อ LED Smart TV 3D 50 นิ้ว ราคาเพียง 29,990 บาท จากปกติ 42,990 บาท และเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ ทั้งชำระแบบปกติหรือแบ่งชำระ ครบ 20,000 บาท รับเงินคืน 300 บาท , ครบ 50,000 บาท รับเงินคืน 1,000 บาท , ครบ 80,000 บาท รับเงินคืน 3,000 บาท , ครบ 120,000 บาท รับเงินคืน 6,000 บาท หรือบวกคะแนนสะสม 60,000 คะแนน รับเงินคืนเป็น 14,500 บาท , ครบ 300,000 บาท รับเงินคืน 18,000 บาท หรือบวกคะแนนสะสม 150,000 คะแนน รับเงินคืนเป็น 42,000 บาท , ครบ 450,000 บาท รับเงินคืน 32,000 บาท หรือบวกคะแนนสะสม 225,000 คะแนน รับเงินคืนเป็น 72,000 บาท จำกัดรับเงินคืนสูงสุด 72,000 บาท ต่อหมายเลขบัตรและตลอดรายการส่งเสริมการขาย “การผนึกกำลังกับบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ ในครั้งนี้ เป็นการคืนความคุ้มค่าสูงสุดที่โฮมโปรจัดให้ลูกค้าเป็นพิเศษ 1 ปีมีครั้งเดียว ประกอบกับสิทธิพิเศษมากมายให้แก่สมาชิกบัตรโฮมการ์ด คาดว่าแคมเปญนี้จะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี” นายณัฎฐ์ กล่าวและกล่าวต่อว่า
นายณัฏฐ์ กล่าวว่า สำหรับยอดขายโฮมโปรในครึ่งปีแรก 2556 บริษัทฯ มียอดขายจำนวน 19,174.25 ล้านบาท โดยมีผลกำไรสุทธิ 1,421.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 220.49 ล้านบาท หรือ 18.36% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจัยของการเพิ่มขึ้นมาจากการเติบโตของสาขาเดิม และการปรับปรุงรูปโฉม รวมทั้งการเปิดสาขาใหม่ ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2556 มีการเปิดสาขาใหม่ 4 สาขา ได้แก่ จันทบุรี , ชุมพร , ปราจีนบุรี, กาญจนบุรี รวมถึงการปรับโฉมใหม่ของ “โฮมโปร” อีก 3 สาขา ได้แก่ สาขาสุราษฏร์ธานี , อุดรธานี และขอนแก่น เพื่อให้ทันสมัย สวยงาม และรองรับความต้องการของลูกค้า ได้อย่างครบถ้วน สมบูรณ์ ทั้งนี้ในช่วงการจัดแคมเปญเพื่อฉลองโฮมโปรครบรอบ 17 ปี คาดว่าโฮมโปรจะสามารถกระตุ้นยอดขายได้อีกประมาณ 3,000 ล้านบาท
นายณัฏฐ์ จริตชนะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” ผู้นำธุรกิจศูนย์รวมวัสดุ และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านครบวงจร เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 17 ปีของโฮมโปร บริษัทฯ ได้จัดแคมเปญเพื่อเป็นการคืนกำไรแก่ลูกค้า ภายใต้แคมเปญ “โฮมโปรฉลองครบรอบ 17 ปี” ตั้งแต่ 29 สิงหาคม — 25 กันยายน 2556 พร้อมการผนึกพันธมิตร ผู้ร่วมค้า และสถาบันการเงินต่าง ๆ มอบโปรโมชั่นพิเศษแบบสุดคุ้มมากมาย
ทั้งนี้ตามแคมเปญที่จัดขึ้น นอกจากจะมีการลดราคาสินค้าแล้ว สมาชิกโฮมการ์ดรับสิทธิ์ช้อปครบ... รับฟรี IPhone 5 , ทองคำหรือบัตรของขวัญโฮมโปร เมื่อช้อปครบ 40,000 บาท รับฟรี บัตรของขวัญโฮมโปร มูลค่า 700 บาท , ช้อปครบ 70,000 บาท รับฟรี บัตรของขวัญโฮมโปร มูลค่า 2,000 บาท , ช้อปครบ 120,000 บาท รับฟรี สร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง มูลค่า 5,337 บาท , ช้อปครบ 300,000 บาท รับฟรี โฮมโปร Gift Card มูลค่า 15,000 บาท และช้อปครบ 450,000 บาท รับฟรี I Phone 5 16 GB มูลค่า 24,550 บาท พร้อมรับสิทธิ์แลกซื้อ สินค้าราคาสุดคุ้ม เพิ่ม ช้อปครบ 5,000 บาท รับสิทธิ์แลกซื้อ หมอน Mickey mouse ราคาเพียง 490 บาท จากปกติ 650 บาท , กระเป๋าเดินทาง 16 นิ้ว ราคาเพียง 990 บาท จากปกติ 2,590 บาท , Power bank แบตตารี่สำรองสำหรับ Smart Phone ราคาเพียง 1,700 บาท จากปกติ 2,690 บาท , ช้อปครบ 20,000 บาท รับสิทธิ์แลกซื้อ ไมโครเวฟ LG 28 ลิตร 3 ระบบ ราคาเพียง 3,990 บาท จากปกติ 7,990 บาท และช้อปครบ 60,000 บาท รับสิทธิ์แลกซื้อ LED Smart TV 3D 50 นิ้ว ราคาเพียง 29,990 บาท จากปกติ 42,990 บาท และเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ ทั้งชำระแบบปกติหรือแบ่งชำระ ครบ 20,000 บาท รับเงินคืน 300 บาท , ครบ 50,000 บาท รับเงินคืน 1,000 บาท , ครบ 80,000 บาท รับเงินคืน 3,000 บาท , ครบ 120,000 บาท รับเงินคืน 6,000 บาท หรือบวกคะแนนสะสม 60,000 คะแนน รับเงินคืนเป็น 14,500 บาท , ครบ 300,000 บาท รับเงินคืน 18,000 บาท หรือบวกคะแนนสะสม 150,000 คะแนน รับเงินคืนเป็น 42,000 บาท , ครบ 450,000 บาท รับเงินคืน 32,000 บาท หรือบวกคะแนนสะสม 225,000 คะแนน รับเงินคืนเป็น 72,000 บาท จำกัดรับเงินคืนสูงสุด 72,000 บาท ต่อหมายเลขบัตรและตลอดรายการส่งเสริมการขาย “การผนึกกำลังกับบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ ในครั้งนี้ เป็นการคืนความคุ้มค่าสูงสุดที่โฮมโปรจัดให้ลูกค้าเป็นพิเศษ 1 ปีมีครั้งเดียว ประกอบกับสิทธิพิเศษมากมายให้แก่สมาชิกบัตรโฮมการ์ด คาดว่าแคมเปญนี้จะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี” นายณัฎฐ์ กล่าวและกล่าวต่อว่า
นายณัฏฐ์ กล่าวว่า สำหรับยอดขายโฮมโปรในครึ่งปีแรก 2556 บริษัทฯ มียอดขายจำนวน 19,174.25 ล้านบาท โดยมีผลกำไรสุทธิ 1,421.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 220.49 ล้านบาท หรือ 18.36% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจัยของการเพิ่มขึ้นมาจากการเติบโตของสาขาเดิม และการปรับปรุงรูปโฉม รวมทั้งการเปิดสาขาใหม่ ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2556 มีการเปิดสาขาใหม่ 4 สาขา ได้แก่ จันทบุรี , ชุมพร , ปราจีนบุรี, กาญจนบุรี รวมถึงการปรับโฉมใหม่ของ “โฮมโปร” อีก 3 สาขา ได้แก่ สาขาสุราษฏร์ธานี , อุดรธานี และขอนแก่น เพื่อให้ทันสมัย สวยงาม และรองรับความต้องการของลูกค้า ได้อย่างครบถ้วน สมบูรณ์ ทั้งนี้ในช่วงการจัดแคมเปญเพื่อฉลองโฮมโปรครบรอบ 17 ปี คาดว่าโฮมโปรจะสามารถกระตุ้นยอดขายได้อีกประมาณ 3,000 ล้านบาท
วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ธนาคารกรุงเทพ มอบข้อเสนอสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยพิเศษต่ำสุด 1.40% คัดทรัพย์สิน พร้อมขายลดสูงสุด 35% เฉพาะในงานอภิมหกรรมบ้าน-คอนโดฯ
ธนาคารกรุงเทพ พร้อมมอบข้อเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษต่ำสุด 1.40% ในปีแรก สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้าน
บัวหลวง และลูกค้าที่ต้องการซื้อทรัพย์สินพร้อมขายที่ธนาคารจัดเตรียมไว้กว่า 350 รายการในราคาพิเศษลด
สูง สุด 35% เฉพาะในงานอภิมหกรรม บ้าน-คอนโดฯ และสินเชื่อแห่งปี ระหว่างวันที่ 22-25 สิงหาคม 2556 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพียง 4 วันนี้เท่านั้น
ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้จัดเตรียมข้อเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้านบัว หลวง ที่มอบให้เป็นพิเศษเฉพาะในงาน
อภิมหกรรม บ้าน-คอนโดฯ และสินเชื่อแห่งปี โดยวงเงินกู้อนุมัติตั้งแต่ 1 ล้านบาท ถึง 4.99 ล้านบาท ปีแรกอัตราดอกเบี้ยคงที่ที่ 1.90% และยังลดเพิ่มอีก 0.30% เหลือเพียง 1.60% สำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันชีวิต
Home 1st หลังจากนั้น MLR* ลบ 0.50% ส่วนวงเงินกู้อนุมัติตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป ปีแรกอัตราดอกเบี้ยคงที่
ที่ 1.75% และยังลดเพิ่มอีก 0.35% เหลือเพียง 1.40% สำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันชีวิต Home 1st หลังจากนั้น MLR* ลบ 0.50% ด้วยวงเงินให้กู้ได้สูงสุด 90% ของราคาประเมินหลักประกัน ทั้งนี้สินเชื่อบ้านบัวหลวง
ครอบคลุมการซื้อที่อยู่อาศัย ได้แก่ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ห้องชุด อาคารพาณิชย์ รวมถึงปลูกสร้างและ
รีไฟแนนซ์จากสถาบันการเงินอื่น
ใน ส่วนของทรัพย์สินพร้อมขายเพื่อการอยู่อาศัย ธนาคารได้คัดทรัพย์สินรวม 350 รายการ มูลค่ารวม 1,200 ล้านบาท มาลดราคาพิเศษสูงสุด 35% เป็นทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 250 รายการ และทรัพย์ต่างจังหวัด 100 รายการ ซึ่งประกอบด้วย บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ห้องชุดพักอาศัย อาคารพาณิชย์ อพาร์ทเม้นท์ อาคารสำนักงาน โรงงานและที่ดินเปล่า ด้วยข้อเสนอพิเศษด้านอัตราดอกเบี้ยปีแรกคงที่ที่ 1.75% และยังลดเพิ่มอีก 0.35% เหลือเพียง 1.40% สำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันชีวิต Home 1st หลังจากนั้น MLR* ลบ 1.00% ด้วยวงเงินให้กู้ได้สูงสุด 90% ของราคาซื้อขาย ทั้งนี้ ลูกค้ายังสามารถค้นหาทรัพย์เพิ่มเติมกว่า 3,800 รายการ ได้อีกหนึ่งช่องทางที่เว็บไซต์ของธนาคาร www.bangkokbank.com/property
ดร.ทวี ลาภ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารยังได้เตรียมมอบข้อเสนอและสิทธิพิเศษ "สินเชื่อบัวหลวงพูนผล" สินเชื่ออเนกประสงค์ที่มอบข้อเสนออัตราดอกเบี้ยปีแรกคงที่ที่ MLR* ลบ 1.00% และยังลดเพิ่มอีก 0.25% เป็น MLR* ลบ 1.25% สำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันชีวิต Home 1st หลังจากนั้น MLR* โดยมอบวงเงินให้กู้ได้สูงสุด
เท่ากับมูลค่าการใช้จ่าย และไม่เกิน 90% ของราคาประเมิน รวมไปถึง "สินเชื่อบัวหลวงสานฝัน" สินเชื่อวงเงินเบิกเกินบัญชีที่มอบข้อเสนออัตราดอกเบี้ย MRR** บวก 0.50% สำหรับลูกค้าที่ได้รับอนุมัติและเบิกใช้วงเงินสินเชื่อบัวหลวงทุกประเภท ยังจะได้รับของขวัญพิเศษเป็นชุดเครื่องนอนผ้าไหมสุดหรูจาก Hallmark มูลค่า
สูงสุด 15,400 บาท
นับ เป็นการรวมตัวของงาน NPA Grand Sale 2013 งาน Home Loan 2013 งาน Home Buyer Expo 2013 งาน Home Builder Expo 2013 ที่จะจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 22-25 สิงหาคม 2556 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยธนาคารกรุงเทพมีความพร้อมในการเข้าร่วมเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน สำหรับลูกค้าและผู้เข้าชมงาน ที่สอดคล้องกับภาพรวมของเศรษฐกิจในปัจุบัน เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ในการดำเนินชีวิตของลูกค้าบุคคลทุกกลุ่ม ผ่านผลิตภัณฑ์และบริการทางด้านการเงินทุกประเภทของธนาคาร อาทิ บริการประกันชีวิต
"บัวหลวงห่วงครอบครัว" ทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่มองหาหลักประกันสำหรับครอบครัว บริการประกันชีวิต
"บัวหลวงห่วงลูกหลาน" ที่มอบความคุ้มครองพร้อมการออมระยะยาวเพื่อลูกหลาน บริการประกันวินาศภัย
"บัว หลวงรักษ์คุณ" และกองทุนรวมแบบผสม (Mixed Fund) อาทิ "กองทุน B-SENIOR" กองทุนรวมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ลงทุนวัยเกษียณเพื่อเริ่มต้นชีวิต ใหม่หลังเกษียณอย่างมีความสุข สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริการบัวหลวงโฟน โทร.1333
*MLR (Minimum Loan Rate) หรือ อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา ปัจจุบันเท่ากับ 7.00%
**MRR (Minimum Retail Rate) หรือ อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี ปัจจุบันเท่ากับ 8.00%
บัวหลวง และลูกค้าที่ต้องการซื้อทรัพย์สินพร้อมขายที่ธนาคารจัดเตรียมไว้กว่า 350 รายการในราคาพิเศษลด
สูง สุด 35% เฉพาะในงานอภิมหกรรม บ้าน-คอนโดฯ และสินเชื่อแห่งปี ระหว่างวันที่ 22-25 สิงหาคม 2556 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพียง 4 วันนี้เท่านั้น
ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้จัดเตรียมข้อเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้านบัว หลวง ที่มอบให้เป็นพิเศษเฉพาะในงาน
อภิมหกรรม บ้าน-คอนโดฯ และสินเชื่อแห่งปี โดยวงเงินกู้อนุมัติตั้งแต่ 1 ล้านบาท ถึง 4.99 ล้านบาท ปีแรกอัตราดอกเบี้ยคงที่ที่ 1.90% และยังลดเพิ่มอีก 0.30% เหลือเพียง 1.60% สำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันชีวิต
Home 1st หลังจากนั้น MLR* ลบ 0.50% ส่วนวงเงินกู้อนุมัติตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป ปีแรกอัตราดอกเบี้ยคงที่
ที่ 1.75% และยังลดเพิ่มอีก 0.35% เหลือเพียง 1.40% สำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันชีวิต Home 1st หลังจากนั้น MLR* ลบ 0.50% ด้วยวงเงินให้กู้ได้สูงสุด 90% ของราคาประเมินหลักประกัน ทั้งนี้สินเชื่อบ้านบัวหลวง
ครอบคลุมการซื้อที่อยู่อาศัย ได้แก่ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ห้องชุด อาคารพาณิชย์ รวมถึงปลูกสร้างและ
รีไฟแนนซ์จากสถาบันการเงินอื่น
ใน ส่วนของทรัพย์สินพร้อมขายเพื่อการอยู่อาศัย ธนาคารได้คัดทรัพย์สินรวม 350 รายการ มูลค่ารวม 1,200 ล้านบาท มาลดราคาพิเศษสูงสุด 35% เป็นทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 250 รายการ และทรัพย์ต่างจังหวัด 100 รายการ ซึ่งประกอบด้วย บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ห้องชุดพักอาศัย อาคารพาณิชย์ อพาร์ทเม้นท์ อาคารสำนักงาน โรงงานและที่ดินเปล่า ด้วยข้อเสนอพิเศษด้านอัตราดอกเบี้ยปีแรกคงที่ที่ 1.75% และยังลดเพิ่มอีก 0.35% เหลือเพียง 1.40% สำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันชีวิต Home 1st หลังจากนั้น MLR* ลบ 1.00% ด้วยวงเงินให้กู้ได้สูงสุด 90% ของราคาซื้อขาย ทั้งนี้ ลูกค้ายังสามารถค้นหาทรัพย์เพิ่มเติมกว่า 3,800 รายการ ได้อีกหนึ่งช่องทางที่เว็บไซต์ของธนาคาร www.bangkokbank.com/property
ดร.ทวี ลาภ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารยังได้เตรียมมอบข้อเสนอและสิทธิพิเศษ "สินเชื่อบัวหลวงพูนผล" สินเชื่ออเนกประสงค์ที่มอบข้อเสนออัตราดอกเบี้ยปีแรกคงที่ที่ MLR* ลบ 1.00% และยังลดเพิ่มอีก 0.25% เป็น MLR* ลบ 1.25% สำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันชีวิต Home 1st หลังจากนั้น MLR* โดยมอบวงเงินให้กู้ได้สูงสุด
เท่ากับมูลค่าการใช้จ่าย และไม่เกิน 90% ของราคาประเมิน รวมไปถึง "สินเชื่อบัวหลวงสานฝัน" สินเชื่อวงเงินเบิกเกินบัญชีที่มอบข้อเสนออัตราดอกเบี้ย MRR** บวก 0.50% สำหรับลูกค้าที่ได้รับอนุมัติและเบิกใช้วงเงินสินเชื่อบัวหลวงทุกประเภท ยังจะได้รับของขวัญพิเศษเป็นชุดเครื่องนอนผ้าไหมสุดหรูจาก Hallmark มูลค่า
สูงสุด 15,400 บาท
นับ เป็นการรวมตัวของงาน NPA Grand Sale 2013 งาน Home Loan 2013 งาน Home Buyer Expo 2013 งาน Home Builder Expo 2013 ที่จะจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 22-25 สิงหาคม 2556 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยธนาคารกรุงเทพมีความพร้อมในการเข้าร่วมเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน สำหรับลูกค้าและผู้เข้าชมงาน ที่สอดคล้องกับภาพรวมของเศรษฐกิจในปัจุบัน เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ในการดำเนินชีวิตของลูกค้าบุคคลทุกกลุ่ม ผ่านผลิตภัณฑ์และบริการทางด้านการเงินทุกประเภทของธนาคาร อาทิ บริการประกันชีวิต
"บัวหลวงห่วงครอบครัว" ทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่มองหาหลักประกันสำหรับครอบครัว บริการประกันชีวิต
"บัวหลวงห่วงลูกหลาน" ที่มอบความคุ้มครองพร้อมการออมระยะยาวเพื่อลูกหลาน บริการประกันวินาศภัย
"บัว หลวงรักษ์คุณ" และกองทุนรวมแบบผสม (Mixed Fund) อาทิ "กองทุน B-SENIOR" กองทุนรวมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ลงทุนวัยเกษียณเพื่อเริ่มต้นชีวิต ใหม่หลังเกษียณอย่างมีความสุข สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริการบัวหลวงโฟน โทร.1333
*MLR (Minimum Loan Rate) หรือ อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา ปัจจุบันเท่ากับ 7.00%
**MRR (Minimum Retail Rate) หรือ อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี ปัจจุบันเท่ากับ 8.00%
วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556
‘บัตรเครดิตไทเทเนียม โรงพยาบาลรามาธิบดี ธนาคารกรุงเทพ’ ส่งต่อบุญ มอบเงิน จำนวน 2,993,122.62 บาท แก่มูลนิธิรามาธิบดีฯ
วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ธนาคารกรุงเทพ ถวายผ้าป่ามหากุศลที่จังหวัดอุดรธานี สร้าง "หอเมตตาธรรมฯ" อนุสรณ์ 100 ปี "หลวงปู่จันทร์ศรี"
วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556
กรุงเทพลุยตลาดเงินฝาก ชูดบ.สูงสุด3.250%ดึงลูกค้า
นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่?ธนาคารกรุงเทพ
จำกัด (มหาชน) หรือ BBL
เปิดเผยว่าธนาคารมีแผนที่จะระดมเงินฝากจากกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่มีถิ่น
ฐานอยู่ในประเทศไทย ด้วยข้อเสนอใหม่ล่าสุดกับบัญชีเงินฝากประจำพิเศษ
ระยะเวลา 4 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2.625% ต่อปี ระยะเวลา 10 เดือน
อัตราดอกเบี้ย 2.875% ต่อปี และระยะเวลา 15 เดือน อัตราดอกเบี้ย
3.250% ต่อปี โดยเปิดบัญชีด้วยจำนวนเงินขั้นต่ำ 200,000 บาท
นับเป็นกิจกรรมรณรงค์เงินฝากพิเศษ เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2556
สิ้นสุดวันที่ 16 กันยายน 2556
วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ธนาคารกรุงเทพ เสนอเงินฝากประจำพิเศษ ดอกเบี้ยสูงสุด 3.250%
ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้สร้างสรรค์กิจกรรมเชิญชวนกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่มีถิ่นฐานอยู่ใน ประเทศไทย ด้วยข้อเสนอใหม่ล่าสุดกับบัญชีเงินฝากประจำพิเศษ ระยะเวลา 4 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2.625% ต่อปี ระยะเวลา 10 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2.875% ต่อปี และระยะเวลา 15 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.250% ต่อปี โดยเปิดบัญชีด้วยจำนวนเงินขั้นต่ำ 200,000 บาท นับเป็นกิจกรรมรณรงค์เงินฝากพิเศษ เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2556 สิ้นสุดวันที่ 16 กันยายน 2556
‘การสร้างสรรค์และเปิดตัวบริการบัญชีเงินฝากประจำ 4 เดือน 10 เดือน และ 15 เดือน ในครั้งนี้ สอดคล้องกับกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้ารายย่อยของธนาคารที่ดำเนินการด้วย ความต่อเนื่อง โดยข้อเสนอที่ธนาคารมอบให้ทั้งอัตราดอกเบี้ยที่สูงจูงใจ ระยะเวลาการฝากที่สามารถเลือกได้ และด้วยจำนวนเงินฝากขั้นต่ำเพียง 200,000 บาท จะสามารถตอบสนองความต้องการและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้เป็น อย่างดี ทั้งนี้ลูกค้าที่สนใจสามารถเปิดบัญชีเงินฝากประเภทดังกล่าวได้ที่ธนาคารกรุงเทพ ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บัวหลวงโฟน โทร.1333 และ www.bangkokbank.com’
BBL เสนอเงินฝากประจำพิเศษ 4-15 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2.625-3.250%
นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ(BBL)
เปิดเผยว่า
ธนาคารเชิญชวนกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่มีถิ่นฐานอยู่ในประเทศไทย
ด้วยข้อเสนอใหม่ล่าสุดกับบัญชีเงินฝากประจำพิเศษ ระยะเวลา 4 เดือน
อัตราดอกเบี้ย 2.625% ต่อปี ระยะเวลา 10 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2.875%
ต่อปี และระยะเวลา 15 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.250% ต่อปี
โดยเปิดบัญชีด้วยจำนวนเงินขั้นต่ำ 200,000 บาท
นับเป็นกิจกรรมรณรงค์เงินฝากพิเศษ เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2556
สิ้นสุดวันที่ 16 กันยายน 2556 การสร้างสรรค์และเปิดตัวบริการบัญชีเงินฝากประจำ 4 เดือน 10 เดือน
และ 15 เดือน ในครั้งนี้
สอดคล้องกับกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้ารายย่อยของธนาคารที่ดำเนินการด้วย
ความต่อเนื่อง
โดยข้อเสนอที่ธนาคารมอบให้ทั้งอัตราดอกเบี้ยที่สูงจูงใจ
ระยะเวลาการฝากที่สามารถเลือกได้ และด้วยจำนวนเงินฝากขั้นต่ำเพียง
200,000 บาท
จะสามารถตอบสนองความต้องการและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้เป็น
อย่างดี
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จไปทรงเปิดนิทรรศการแสดงภาพเขียน "จิตรกรรมบัวหลวง" ครั้งที่ 35
วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556
กรมเจรจาฯ จัดเต็ม 14-15 ส.ค.นี้เสวนาโอกาสทอง 4 ประเทศ AEC
กรมเจรจาฯ
เดินหน้าสร้างความรู้เรื่องกฎระเบียบการค้าการลงทุนรองรับ AEC จัดสัมมนาใหญ่วันที่
14-15 สิงหาคมนี้ เน้นประเด็นความท้าทายที่ไม่อาจมองข้ามทั้งของ กัมพูชา ลาว
เวียดนาม และอินโดนีเซีย
นางพิรมล เจริญเผ่า อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า
เนื่องจากทางกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
ได้มีการมุ่งเน้นสร้างความรับรู้ด้านกฎระเบียบ
มาตรการด้านการค้าและการลงทุนภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ให้กับผู้ประกอบการไทย
โดยเฉพาะ SMEs ให้เกิดความพร้อมในการเร่งปรับตัวรองรับการเข้าสู่
AEC ในปี
2558 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จึงได้มีการจัดสัมมนาในเรื่องของกฎหมายการลงทุนใหม่ของเมียนมาร์ที่ประกาศใช้เมื่อปลายปี
2555 ไปเมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา
นางพิรมล
กล่าวว่า เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการเสริมสร้างความรู้ และในฐานะ AEC Coordination Agency กรมฯ
จึงได้กำหนดจัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการขึ้นอีกครั้ง โดยแบ่งเป็น 2
หัวข้อเรื่องที่สำคัญ เรื่องแรกคือ “กฎ
ระเบียบด้านการค้าภาคบริการและการลงทุนภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน :
ความท้าทายที่ไม่อาจมองข้ามในกัมพูชา ลาว และเวียดนาม” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันพุธที่
14 สิงหาคม 2556 เวลา 08.30-16.30 น.
“ในวันที่
14 นี้จะมีการบรรยายพิเศษ เรื่อง “การเปิดเสรีด้านการลงทุนในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” โดยเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
หรือบีโอไอ ในขณะที่ภาคของการเสวนาก็จะมีผู้แทนทั้งจากเวียดนาม ลาว และกัมพูชา
มาให้ความรู้ทั้งในภาคเช้าและภาคบ่าย”
นางพิรมล
กล่าวว่า ส่วนอีกเรื่องหนึ่ง คือ “กฎ
ระเบียบด้านการค้าภาคบริการและการลงทุนภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน:
ความท้าทายที่ไม่อาจมองข้ามในอินโดนีเซีย” โดยจะจัดในวันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม 2556 เวลา
08.30-16.30 น. ซึ่งก็จะมีการบรรยายพิเศษ เรื่อง “ความสัมพันธ์ของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน” โดยอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก
ส่วนภาคบ่ายในการเสวนาจะมีนายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา
ประธานสภาธุรกิจไทย-อินโดนีเซีย และผู้แทนจากอินโดนีเซีย มาร่วมให้ความรู้
“กิจกรรมทั้ง
2 วันจะจัดขึ้น ณ ห้อง Salon
B โรงแรมสวิสโฮเตล เลอ คองคอร์ด โดยทั้ง 2 เรื่อง
ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นกัมพูชา ลาว เวียดนาม และอินโดนีเซีย
ที่สำคัญยังมีบริษัทที่ปรึกษาด้านกฎหมายมาร่วมบริการให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย
และธนาคารพาณิชย์ 5 ธนาคาร คือ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิการไทย ธนาคารไทยพาณิชย์
ธนาคารกรุงเทพฯ และธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออก
มาให้คำปรึกษาแก่ผู้เข้าร่วมสัมมนาตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ (First come first serve) ด้วย
จึงไม่น่าพลาดโอกาสนี้” นางพิรมล
กล่าว
วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ธนาคารกรุงเทพ สนับสนุนสินเชื่อ ‘มหาชัย กรีน เพาเวอร์’ ก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล วงเงินรวม 537 ล้านบาท
BBL สนับสนุนสินเชื่อมหาชัย กรีน เพาเวอร์537 ลบ.สร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล
รายงานข่าวจากธนาคารกรุงเทพ(BBL)
เปิดเผยว่า ธนาคารได้สนับสนุนวงเงินสินเชื่อให้แก่ บริษัท มหาชัย
กรีน เพาเวอร์ จำกัด รวม 537 ล้านบาท
สำหรับใช้ดำเนินการโครงการโรงไฟฟ้ามหาชัย ตำบลชัยมงคล อำเภอเมือง
จังหวัดสมุทรสาคร ในการผลิตไฟฟ้าจาก
พลังงานชีวมวลขนาด 9.5
เมกะวัตต์ที่ใช้เศษชิ้นส่วนมะพร้าวเป็นเชื้อเพลิง
เพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จำนวน 8 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ บริษัท มหาชัย กรีน เพาเวอร์ จำกัด
ก่อตั้งขึ้นจากความร่วมมือของพันธมิตร 4 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท ทีพีซี
เพาเวอร์ โฮวดิ้ง จำกัด บริษัท EnBW AG จำกัด บริษัท เอ็นซี โคโคนัท
จำกัด และบริษัท กรีน เพาเวอร์ โปรดิวเซอร์ กรุ๊ป จำกัด
ทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 20 ล้านบาท
และกำหนดแผนจะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 210 ล้านบาทในปี 57
วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ธนาคารกรุงเทพ ผนึก 4 บริษัทในกลุ่ม มอบความรู้ทางการเงินแก่ชาวอุดรธานี ได้รับความสนใจล้นหลาม ในงาน ‘การเงินมั่นคงกับครอบครัวบัวหลวง’ ครั้งที่ 2
นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร (ที่ 4 จากซ้าย) นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรอง ผู้จัดการใหญ่ (ที่ 3 จากขวา) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) นายพนัส ธีรวณิชย์กุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ที่ 2 จากขวา) บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ที่ 2 จากซ้าย) บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซ้าย) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด และ นายพิเชษฐ์ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ (ขวา) บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด ให้การต้อนรับ นายสวาท ธีรรัตนนุกูลชัย ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี (ที่ 4 จากขวา) และนายพรเทพ ศักดิ์สุจริต ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี (ที่ 3 จากซ้าย) ที่ให้เกียรติร่วมเปิดงาน ‘การเงินมั่นคงกับครอบครัวบัวหลวง : Bangkok Bank Family Banking’ ครั้งที่ 2 จังหวัดอุดรธานี ที่กลุ่มธนาคารกรุงเทพ ได้ร่วมมือกันสร้างสรรค์กิจกรรมขึ้น เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการบริหารจัดการการ เงินครอบครัวอย่างยั่งยืน โอกาสนี้นายโฆสิตได้บรรยายพิเศษหัวข้อ ‘ครอบครัวไทยในภาวะเศรษฐกิจไทยผันผวน’ ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวอุดรธานีและจังหวัดใกล้เคียงในภาคตะวันออก เฉียงเหนือเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้กลุ่มธนาคารกรุงเทพจะ รวมพลังครั้งใหญ่อีกครั้งเพื่อจัดงานที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในวันเสาร์ที่ 21 กันยายนนี้ ด้วยมั่นใจว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อครอบครัวไทยใน ระยะยาว
'โฆสิต' ห่วงคนไทยออมเงินลดลง
นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ
จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
ครอบครัวไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมอย่าง
เห็นได้ชัด โดยเฉพาะในด้านขนาดของครอบครัว
ซึ่งในปัจจุบันมีสภาพเป็นครอบครัวเดี่ยวหรือครอบครัวที่มีสมาชิกใน
ครอบครัวน้อยลง
และในด้านโครงสร้างอายุซึ่งในปัจจุบันมีแนวโน้มที่คนไทยจะมีอายุยืน
เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมดังกล่าว
ทำให้หัวหน้าครอบครัวไทยในปัจจุบันต้องเผชิญกับโจทย์ทางการเงินที่
ซับซ้อนขึ้น ทั้งนี้ การที่สังคมไทยกำลังก้าวไปสู่สังคมผู้สูงอายุ
มีผลทำให้ช่วงชีวิตหลังเกษียณหรือช่วงระยะเวลาที่ครอบครัวไม่มีราย
ได้จากการทำงานมีระยะนานขึ้น
ภาวะเช่นนี้ทำให้เกิดความจำเป็นที่หัวหน้าครอบครัวจะต้องเก็บออม
เงินหรือลงทุนในทรัพย์สินเพื่อไว้ใช้หลังเกษียณของตนเอง
ดังนั้นจะต้องมีการวางแผนรายได้รายจ่ายอย่างรอบคอบ
ตอบโจทย์ทั้งการออมเพื่อใช้จ่ายในอนาคตและยามฉุกเฉินของครอบครัว
แล้วยังต้องพิจารณาถึงการคุ้มครองความเสี่ยงต่างๆ
ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นมากขึ้น
"การออมเงินของครัวเรือนของคนไทยในปี 2553 มีมูลค่า 584,560 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9.6% ส่วนในปี 2554 มีมูลค่าการออมอยู่ที่ 588,380 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9.2% ซึ่งจะเห็นได้ว่าการออมเงินของคนไทยยังดีอยู่แต่มีแนวโน้มที่ลดลง ขณะที่การออมเงินของสหรัฐ ในปี 2527 มีอัตราการออมอยู่ที่ประมาณ 10% และในปี 2543 มีสัดส่วนเงินออมลดลงเหลือไม่ถึง 2% ทำให้สหรัฐอ่อนแอและเกิดวิกฤติง่ายเพราะไม่มีเงินออมมาช่วย ทั้งนี้หากการออมเงินของประชาชนต่ำเกินไป แต่ถ้าการออมของประชาชนไม่ดีจะส่งผลกระทบต่อประเทศอย่างเช่นสหรัฐ เป็นต้น"
ดังนั้นธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับบริษัทในเครือทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด และบริษัท หลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด จัดกิจกรรม "การเงินมั่นคงกับครอบครัวบัวหลวง" เพื่อสร้างความรู้ในการตอบโจทย์ทางการเงินของครอบครัวไทยในยุค ปัจจุบัน โดยจัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ ผ่านมา ล่าสุดจัดครั้งที่ 2 ที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม และครั้งที่ 3 ในวันที่ 12 ตุลาคม ที่กรุงเทพฯ ซึ่งรูปแบบการจัดงานจะแตกต่างจากกิจกรรมปกติทั่วไปที่มุ่งเน้นการมอบ ข้อเสนอพิเศษให้กับลูกค้าที่มาร่วมงาน
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมการเงินมั่นคงกับครอบครัวบัวหลวง จัดขึ้นเพื่อต้องการให้ความรู้และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยว กับผลิตภัณฑ์ทางการเงินแต่ละประเภท เพื่อเป็นข้อมูลในการเลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสมกับการออม ของแต่ละครอบครัว โดยจะมีวิทยากรที่มีความรู้และประสบการณ์เฉพาะมาให้ความรู้และสร้าง ความเข้าใจในเรื่องการเงิน
"การออมเงินของครัวเรือนของคนไทยในปี 2553 มีมูลค่า 584,560 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9.6% ส่วนในปี 2554 มีมูลค่าการออมอยู่ที่ 588,380 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9.2% ซึ่งจะเห็นได้ว่าการออมเงินของคนไทยยังดีอยู่แต่มีแนวโน้มที่ลดลง ขณะที่การออมเงินของสหรัฐ ในปี 2527 มีอัตราการออมอยู่ที่ประมาณ 10% และในปี 2543 มีสัดส่วนเงินออมลดลงเหลือไม่ถึง 2% ทำให้สหรัฐอ่อนแอและเกิดวิกฤติง่ายเพราะไม่มีเงินออมมาช่วย ทั้งนี้หากการออมเงินของประชาชนต่ำเกินไป แต่ถ้าการออมของประชาชนไม่ดีจะส่งผลกระทบต่อประเทศอย่างเช่นสหรัฐ เป็นต้น"
ดังนั้นธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับบริษัทในเครือทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด และบริษัท หลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด จัดกิจกรรม "การเงินมั่นคงกับครอบครัวบัวหลวง" เพื่อสร้างความรู้ในการตอบโจทย์ทางการเงินของครอบครัวไทยในยุค ปัจจุบัน โดยจัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ ผ่านมา ล่าสุดจัดครั้งที่ 2 ที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม และครั้งที่ 3 ในวันที่ 12 ตุลาคม ที่กรุงเทพฯ ซึ่งรูปแบบการจัดงานจะแตกต่างจากกิจกรรมปกติทั่วไปที่มุ่งเน้นการมอบ ข้อเสนอพิเศษให้กับลูกค้าที่มาร่วมงาน
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมการเงินมั่นคงกับครอบครัวบัวหลวง จัดขึ้นเพื่อต้องการให้ความรู้และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยว กับผลิตภัณฑ์ทางการเงินแต่ละประเภท เพื่อเป็นข้อมูลในการเลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสมกับการออม ของแต่ละครอบครัว โดยจะมีวิทยากรที่มีความรู้และประสบการณ์เฉพาะมาให้ความรู้และสร้าง ความเข้าใจในเรื่องการเงิน
บันทึกสังคม: สมทบทุน
อภิชาต รมยะรูป ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ
จำกัด (มหาชน) มอบเงินจำนวน 300,000 บาท แก่ กมลา สุโกศล
ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มโรงแรมสุโกศล
เพื่อร่วมสนับสนุนการจัดงานแสดงคอนเสิร์ตการกุศล 'New York, New
York' เพื่อระดมทุนหารายได้บำรุง 'ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ
แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
สภากาชาดไทย
วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ธนาคารกรุงเทพ ผนึก 4 บริษัทในกลุ่ม มอบความรู้ทางการเงินแก่ชาวอุดรธานี ได้รับความสนใจล้นหลาม ในงาน "การเงินมั่นคงกับครอบครัวบัวหลวง" ครั้งที่ 2
ผู้ จัดการใหญ่ (ที่ 3 จากขวา) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) นายพนัส ธีรวณิชย์กุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ที่ 2 จากขวา) บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ที่ 2 จากซ้าย) บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซ้าย) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด และ นายพิเชษฐ์ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ (ขวา) บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด ให้การต้อนรับ นายสวาท ธีรรัตนนุกูลชัย ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี (ที่ 4 จากขวา) และนายพรเทพ ศักดิ์สุจริต ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี (ที่ 3 จากซ้าย) ที่ให้เกียรติร่วม เปิดงาน "การเงินมั่นคงกับครอบครัวบัวหลวง: Bangkok Bank Family Banking" ครั้งที่ 2 จังหวัดอุดรธานี ที่กลุ่มธนาคารกรุงเทพได้ร่วมมือกันสร้างสรรค์กิจกรรมขึ้น เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ แนวทางการบริหารจัดการการเงินครอบ ครัวอย่างยั่งยืน โอกาสนี้นายโฆสิตได้บรรยายพิเศษหัวข้อ "ครอบครัวไทยในภาวะเศรษฐกิจไทยผันผวน" ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวอุดรธานีและจังหวัดใกล้เคียงในภาคตะวันออกเฉียง เหนือเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้กลุ่มธนาคารกรุงเทพจะรวมพลังครั้งใหญ่อีกครั้งเพื่อจัดงานที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในวันเสาร์ที่ 21 กันยายนนี้ ด้วยมั่นใจว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อครอบครัวไทยในระยะยาว
วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ปฏิทินข่าวธุรกิจประจำวันนี้(3 สิงหาคม 2556)
วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม 2556 11.00 น. ธนาคารกรุงเทพ
จัดงาน “การเงินมั่นคงกับครอบครัวบัว หลวง Bangkok Bank Family Banking”
ณ ศูนย์การค้า เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี 12.30 น. ซีพี จัดกิจกรรม Road
Show โครงการ “ซีพี สดทุกแพ็ค ไอเดียปิ๊งทุกวัน” ณ Big C Extra
พระราม4 13.00 น. แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต จัดงานสัมมนาหัวข้อ “จัดพอร์ตการลงทุนฝ่าวิกฤติ” ณ โรงแรม The Westin Grande Sukhumvit 13.30 น. LF Asia จัดงาน ‘Stand On Your Style by Braun & Ingersoll’
วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ปฏิทินข่าวธุรกิจประจำวันพรุ่งนี้(3 สิงหาคม 2556)
ธนาคารกรุงเทพ จัดงาน “การเงินมั่นคงกับครอบครัวบัวหลวง Bangkok Bank Family Banking” ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี 12.30 น. ซีพี จัดกิจกรรม Road Show โครงการ “ซีพี สดทุกแพ็ค
ไอเดียปิ๊งทุกวัน” ณ Big C Extra พระราม4 13.00 น. แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต จัดงานสัมมนาหัวข้อ “จัดพอร์ตการลงทุนฝ่าวิกฤติ” ณ โรงแรม The Westin Grande Sukhumvit 13.30 น. LF Asia จัดงาน ‘Stand On Your Style by Braun &Ingersoll’
วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2556
บล.เคที ซีมิโก้ เตรียมขาย Call DW อ้างอิง BBL จ่อเทรด 14 ส.ค.นี้
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)
เปิดเผยว่า บล.เคที ซีมิโก้(KTZ)จะเสนอขาย
ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์(DW)ประเภทสิทธิในการซื้อ(Call Warrants)
โดยอ้างอิงธนาคารกรุงเทพ(BBL)โดยจะทำ
การซื้อวัน แรกในตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 14 สิงหาคม 2556
และมีรายละเอียด DW ที่จะเสนอขาย ดังนี้ DW หุ้นอ้างอิง จำนวน DW หุ้นอ้างอิง จำนวน ราคาใช้สิทธิ อัตราใช้สิทธิ เทรดวันแรก ซื้อขายวันสุดท้าย ครบกำหนดอายุ
(ล้านหน่วย) (บาท) (DW:หุ้นอ้างอิง)
BBL18C1402A BBL 20 190.00 100 : 1 14 ส.ค.56 10 ก.พ.57 17 ก.พ.57
บริษัทจะเสนอขายตามราคาใดที่เป็นไปตามกลไกการเสนอซื้อและเสนอขาย(bid/offer)ของระบบซื้อขายในตลาดหลัก
ทรัพย์แห่งประเทศไทย
บล.เคที ซีมิโก้(KTZ)ได้รับกาการจัดอันดับความน่าเชื่อในระดับ BBB+ โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด
นานมีบุ๊คส์สานต่อโครงการ “มอบอนาคต มอบหนังสือ 1,000 โรงเรียน” ชูคอนเซ็ปต์ “การอ่านสร้างตัวตน”
บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด ร่วมกับ มูลนิธิทองเกษมเพื่อการศึกษา
สานต่อโครงการมอบอนาคต มอบหนังสือ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4
เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 58 พรรษา โดยได้รับการสนับสนุนจาก
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และธนาคารกรุงเทพอ่านต่อ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)