กรมเจรจาฯ
เดินหน้าสร้างความรู้เรื่องกฎระเบียบการค้าการลงทุนรองรับ AEC จัดสัมมนาใหญ่วันที่
14-15 สิงหาคมนี้ เน้นประเด็นความท้าทายที่ไม่อาจมองข้ามทั้งของ กัมพูชา ลาว
เวียดนาม และอินโดนีเซีย
นางพิรมล เจริญเผ่า อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า
เนื่องจากทางกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
ได้มีการมุ่งเน้นสร้างความรับรู้ด้านกฎระเบียบ
มาตรการด้านการค้าและการลงทุนภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ให้กับผู้ประกอบการไทย
โดยเฉพาะ SMEs ให้เกิดความพร้อมในการเร่งปรับตัวรองรับการเข้าสู่
AEC ในปี
2558 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จึงได้มีการจัดสัมมนาในเรื่องของกฎหมายการลงทุนใหม่ของเมียนมาร์ที่ประกาศใช้เมื่อปลายปี
2555 ไปเมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา
นางพิรมล
กล่าวว่า เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการเสริมสร้างความรู้ และในฐานะ AEC Coordination Agency กรมฯ
จึงได้กำหนดจัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการขึ้นอีกครั้ง โดยแบ่งเป็น 2
หัวข้อเรื่องที่สำคัญ เรื่องแรกคือ “กฎ
ระเบียบด้านการค้าภาคบริการและการลงทุนภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน :
ความท้าทายที่ไม่อาจมองข้ามในกัมพูชา ลาว และเวียดนาม” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันพุธที่
14 สิงหาคม 2556 เวลา 08.30-16.30 น.
“ในวันที่
14 นี้จะมีการบรรยายพิเศษ เรื่อง “การเปิดเสรีด้านการลงทุนในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” โดยเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
หรือบีโอไอ ในขณะที่ภาคของการเสวนาก็จะมีผู้แทนทั้งจากเวียดนาม ลาว และกัมพูชา
มาให้ความรู้ทั้งในภาคเช้าและภาคบ่าย”
นางพิรมล
กล่าวว่า ส่วนอีกเรื่องหนึ่ง คือ “กฎ
ระเบียบด้านการค้าภาคบริการและการลงทุนภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน:
ความท้าทายที่ไม่อาจมองข้ามในอินโดนีเซีย” โดยจะจัดในวันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม 2556 เวลา
08.30-16.30 น. ซึ่งก็จะมีการบรรยายพิเศษ เรื่อง “ความสัมพันธ์ของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน” โดยอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก
ส่วนภาคบ่ายในการเสวนาจะมีนายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา
ประธานสภาธุรกิจไทย-อินโดนีเซีย และผู้แทนจากอินโดนีเซีย มาร่วมให้ความรู้
“กิจกรรมทั้ง
2 วันจะจัดขึ้น ณ ห้อง Salon
B โรงแรมสวิสโฮเตล เลอ คองคอร์ด โดยทั้ง 2 เรื่อง
ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นกัมพูชา ลาว เวียดนาม และอินโดนีเซีย
ที่สำคัญยังมีบริษัทที่ปรึกษาด้านกฎหมายมาร่วมบริการให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย
และธนาคารพาณิชย์ 5 ธนาคาร คือ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิการไทย ธนาคารไทยพาณิชย์
ธนาคารกรุงเทพฯ และธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออก
มาให้คำปรึกษาแก่ผู้เข้าร่วมสัมมนาตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ (First come first serve) ด้วย
จึงไม่น่าพลาดโอกาสนี้” นางพิรมล
กล่าว